วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2558

เรื่องการบำรุงรักษา โช้คอัพสตัทปรับเกลียว


                              การอัฟเกรดระบบช่วงล่าง  และระบบกลไกของรถยนต์ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้รถยนต์มีความนุ่มนวล  หรือควบคุมง่ายขึ้น  แต่เนื่องจากในระบบกลไกต่างๆนั้นหากเราต้องการให้มันสามารถที่จะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ  ก็ต้องมีการบำรุงรักษา (เพราะของฟรีไม่มีในรถยนต์)
                            
                              ในเรื่องของโช้คอัพสตัทปรับเกลียวนั้นส่วนใหญ่ค่าสปริงจะถูกกำหนดมาจากผู้ผลิต  แต่เราสามารถที่จะปรับค่า  ความหนืด ได้ตามต้องการกับลักษณะการขับขี่ที่ต้องการ 
                               อุณหภูมิ  และปัจจัยจากภายนอก  เป็นตัวแปรที่มีผลต่อน้ำมันที่บรรจุอยู่ในตัวโช้คอัพ  ตัวอย่างเช่น  หากเซ็ทค่าความหนืดไว้สำหรับวิ่งในฤดูหนาว  แต่พอถึงฤดูร้อนเมื่อนำรถมาขับจะรู้สึกว่าโช้คอัพนิ่มเกินไป และในทางตรงข้ามกันด้วย เป็นต้น
                               การบำรุงรักษาโช้คอัพสตัทปรับเกลียวควรทำตั้งแต่เมื่อซื้อมาแล้วและก่อนการติดตั้งคือการพ่นน้ำยากันสนิมในบริเวณเกลียวของโช้คอัพ เพราะจะมีการเกิดสนิมก่อนเนื่องจากบางครั้งต้องเจอน้ำและความชื้น  ในทุกครั้งที่มีการถอดยางรถยนต์ควรสำรวจดูที่แกนโช้คอัพว่าสกปรกหรือปล่าว  ถ้ามีควรทำความสะอาดด้วยแปรง  เพราะมีผลต่ออายุของซีลแกนโช้คอัพ
                                การปรับความ สูง-ต่ำ ของรถยนต์ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะในการควบคุมรถ เช่นในบรรดาพวกรถสนามต่างๆเราจะเห็นว่ามีความเตี้ยแทบจะติดพื้น สาเหตุเพราะว่าหากรถยนต์ มีระดับที่ต่ำลงแล้วบรรดาพวกอาร์มที่ค้ำระบบช่วงล่างในจุดต่างๆจะมีความยาวเพิ่มขึ้น ฐานล้อกว้างขึ้นและมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำลงจึงเข้าโค้งได้ดีขึ้น
                               
                                ทั้งนี้การปรับ เปลี่ยน อุปกรณ์  หรืออะหลั่ยรถยนต์ต่างๆ เนื่องจากในหลายชิ้นส่วนก็มีราคาที่แพงพอสมควร (ขึ้นอยู่กับแหล่งที่ได้มา) ดังนั้นในการที่เราอยากจะอัฟเกรดรถยนต์ของเราควรศึกษาหาข้อมูล  ข้อดี-ข้อเสีย จุดประสงค์ที่เราต้องการ  ก่อนก็ดีหรือปรึกษาช่างที่มีประสบการณ์  จะได้ไม่เสียเงินปล่าวๆคับ

วันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ความรุ้พื้นฐาน เกี่ยวกับระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์


                         เนื่องจากอุณหภูมิที่เกิดจากการจุดระเบิดในห้องเผาใหม้นั้น  มีอุณหภูมิสูงเป็นพันองศาหรือในระบบของรถแข่งที่เกือบ 2000 องศา  และจะร้อนอยู่เกือบตลอดเวลาหากปล่อยให้อุณหภูมิสูงไปเรื่อยๆเครื่องยนต์จะเกิดอาการเขก  และชิ้นส่วนบางอย่างเปลี่ยนรูปจนเกิดการเสียหายได้
                         ดังนั้นเครื่อยนต์จึงใช้น้ำมาช่วยในการ ลด - ควบคุมอุณหภูมิ  ให้คงที่มากที่สุดอยู่ตลอดเวลา  เสื้อสูบและฝาสูบจึงถูกออกแบบให้มีทางเดินน้ำที่เรียกว่า Water Jacket และใช้ปั้มน้ำเป็นตัวปั่นให้น้ำหมุนเวียนในเครื่องยนต์และนำความร้อนเข้ามาสู่หม้อน้ำ  และลดความร้อนของอุณหภูมิน้ำลงด้วยแผงระบายที่ทำงานรวมกับใบพัดลม  และจะหมุนเวียนเอาน้ำที่มีอุณหภูมิลดลงแล้วเข้าสู่เครื่องยนต์เป็นวงจรไปเรื่อยๆ  ซึ่งมันเป็นโครงสร้างพื้นฐานของระบบระบายความร้อนด้วยน้ำของเครื่องยนต์
                         ทั้งนี้หากเรื่องยนต์เย็นเกินไป จะส่งผลคือ  จะกินน้ำมันเชื้อเพลิง ประสิทธภาพของกำลังเครื่องยนต์จะลดลง  ดังนั้นการรักษาอุณหภูมิของน้ำหล่อเย็นจึงมีผลสำคัญครับ และเป็นเหตุผลที่ต้องมีอุปกรณ์ที่จะคอยควบคุมการไหลของน้ำที่เรียกว่า  เทอร์โมสต้ท
                         หม้อน้ำรถยนต์มีอยู่สองประเภทใหญ่ๆ  คือ แบบที่ทำจากอลูมิเนียม  และแบบที่ทำจากทองแดง  ข้อดีของทองแดงคือจะคายความร้อนได้ดี  แต่มีข้อเสียคือมีน้ำหนักมาก
อลูมิเนียม ข้อดีระบาความร้อนได้ดีแต่ต้องมีการไหลเวียนของลมผ่านแฝงระบาย  และมีน้ำหนักที่เบา ข้อเสียคือการคายความร้อนด้วยตัวเองที่สู้แบบทองแดงไม่ได้

                         หากหม้อน้ำรถยนต์ของเรามีอายุมาก หรือมีการรั่วซึมตามอายุการใช้งานแล้วอยากที่จะเปลี่ยน  หรืออัปเกรด ก็มีแนวทางหลากหลายให้คิด เช่น ลักษณะการใช้งาน น้ำหนัก ราคา ความยาก-ง่ายในการติดตั้ง รูปร่างหน้าตา การจัดวางอุปกรณ์รอบๆทั้งนี้เพื่อประสิทธิภาพในการระบายความร้อนที่ดีครับ แต่หากคิดว่ามันยุ่งยากเกินไป  ก็แนะนำว่าแบบ Standard ครับแบบเดิมเลย  ไม่ต้องคิดมากประสิทธิภาพการทำงานต่างๆ ก็เหมือนแบบที่เคยใช้ครับ   

วันเสาร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2558

อาการ เร่งหาย .ไม่คงที่ .เร่งอืด .เร่งกระโดด เพราะคันเร่งสัญญานเพี้ยน


                         เนื่องจากความก้าวหน้า  ของระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบ ECI หรือ ELECTRONIC CONTROL INJECTION ที่จะคอยควบคุมการป้อนเชื้อเพลิง กับอากาศ  เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้กำลังของเครื่องยนต์ในแต่ละช่วงเวลาที่ต้องการ ขาคันเร่งจึงเปลี่ยนเป็นแบบระบบไฟฟ้าแทนระบบสายสลิง

                          แต่ทั้งนี้จะต้องทำงานร่วมกับตัวส่งสัญญานต่างๆ คือ
1.Air flow sensor  คือตัวจับปริมาณไอดี  ซึ่งรวมถึงการไหลของอากาศ อุณหภูมิของอากาศ  ความสม่ำ
   เสมอของอากาศ
2.Temperatuer sensor  คืออุณหภูมิของเครื่องยนต์
3.Catalytic converter  คือไส้กรองที่คอยกำจัดแก็สไอเสียบางอย่าง  เพื่อช่วยให้ระบบจ่ายเชื้อเพลิงได้
   ปริมาณที่เหมาะสม
4.Ignition sensor  คือองศาการจุดระเบิด  ซึ่งรวมถึงการเลือกจังหวะการจุดระเบิดที่เหมาะสมกับค่าของ
   เชื้อเพลิง  รอบการทำงาน  ภาระการทำงานของเครื่องยนต์

                          อุปกรณ์เหล่านี้จะส่งสัญญานไปที่  ศูนย์ประมวลผล  หรือชื่อ ECM ( Elelectronic Control Managenent )  หรือ ECU นั้นเองที่เราเรียกบ่อยๆ
                          โดยเจ้าศูนย์ประมวลผล หรือชื่อ ECM  หรือ ECU  แล้วแต่จะเรียกนี้มันก็คือ 'กล่องคอมพิวเตอร์" โดยทำหน้าที่ประมวลผล  แล้วส่งสัณณานไปควบคุมอุปกรณ์อื่นๆอีกที  เช่น ปั้มแรงดันเชื้อเพลิง  หัวฉีด  การจุดระเบิด  ลิ้นเร่ง  เป็นต้น
                          ในรถยนต์รุ่นใหม่ๆจะใช้ระบบมอร์เตอร์ไฟฟ้ามาเปิดลิ้นเร่งแทนสายสลิงในระบบเก่า  ดังนั้นการส่งสัณณานของขาคันเร่งจึงถูกสร้างมาในแบบการทำงานคือ  จะเพิ่มหรือลดค่าต่างศักย์  ของไฟฟ้า  และโดยมากในการเพิ่มหรือลดโวล์เตจนั้นจะมีในแบบส่งสัณณานโดยตรง  หรือผ่านกล่องควบคุมอีกชั้นนึง
                          และอย่างที่ทราบกันดีว่าระบบการทำงานของอุปกรณ์ไฟฟ้านั้นเอาแน่เอานอนไม่ค่อยจะได้เพราะว่าไม่สามารถจับต้องมันได้  และอายุก็เป็นตัวทำให้ค่าการทำงานเสื่อม  รวมถึงความขชื้น  อุณหภูมิของหน้าสัมผัส  ดังนั้นเมื่อใดที่รู้สึกว่าอายุรถยนต์ของเราเกิน 5 ปี หรือเกิน 100000 และมีอาการเร่งหาย .ไม่คงที่ .เร่งอืด .เร่งกระโดด ก็ลองนำรถไปเช็คค่าของขาคันเร่งดูนะครับ

วันเสาร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2558

เรื่อง ลิมิเต็ดสลิป สำคัญหรือไม่อย่างไร


                            ลิมิเต็ดสลิป  หรือ Limited Slip Differential  หรือที่เราเรียกสั้นๆว่า LSD นั้นแหละครับ
              เนื่องจากโดยปกติแล้วในรถยนต์ทั่วๆไปไม่ว่าจะเป็นระบบขับเคลื่อนในล้อหน้า  หรือล้อหลังจากโรงงาน  ก็จะมีชุดเฟืองท้ายแบบอิสระที่ไม่มีลิมิเต็ดสลิปมาให้นะครับ ยกเว้นในบางรุ่นที่ผลิตมา  เช่นรถยนต์ประเภท 4x4 

              ทั้งนี้ข้อดีของการที่  ไม่มีลิมิเต็ดสลิป ก็คือมันเหมาะสมกับการใช้รถยนต์ในชีวิตประจำวันของเราเพราะสามารถที่จะเข้าโค้งได้้ง่าย เพลาทั้งสองข้างเป็นอิสระจากกัน  แต่ด้วยความเป็นอิสระนั้นเองที่ทำให้เครื่องยนต์ที่มีแรงม้า  หรือกำลังมากๆไม่สามารถที่จะถ่ายทอดกำลังทั้งหมดลงสู่ยางและพื้นได้เต็มที่ครับ
              ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของของแต่งนี้อย่าง  ลิมิเต็ดสลิป โดยโครงสร้างในปัจจุบันนั้นลิมิเต็ดสลิปมีระบบการทำงาน  หรือที่ผลิตออกมาสองแบบครับคือ  ระบบฟันเฟือง  และระบบแผ่นครัช  แต่หลักการทำงานก็จะเหมือนกันคือ  จะจับเพลาให้ทั้งสองข้างหมุนให้เท่าๆกันเมื่อได้รับแรงบิดจากเครื่องยนต์  แต่ในแบบระบบฟันเฟืองนั้นหากล้อไม่แตะพื้นก็จะคลายการจับตัว  ส่วนในระบบแผ่นครัชจะจับอยู่ตลอดเวลาแต่จะคลายตัว  ต่อเมื่อมีแรงบิดจากเครื่องยนต์ลดลง

ในการจับตัวของ ลิมิเต็ดสลิปนั้น มีอีกสองประเภทคือ จับแบบ 2.0 และ 1.5
2.0 คือ การจับแบบตลอดเวลาเหมาะกับรถแข่งประเภทดริฟ เข้า และออกโค้งที่มีความซับซ้อนมากๆ
1.5 คือ การจับตัวของ ลิมิเต็ดสลิปที่เมื่อใดที่กดคันเร่งจะมีการจับตัวแบบ2.0 แต่เมื่อผ่อนคันเร่งจะเหลือการจับแค่ครึ่งเดียว ซึ่งเหมาะกับรถประเภทแข่งทางเรียบ  และทางตรง

              ดังนั้นจะเห็นว่าถึงแม้เครื่องยนต์จะได้รับการโมดิฟาย  ให้มีแรงม้า  แรงบิดซักเท่าใดก็ตามแต่  หากไม่สามารถที่จะถ่ายทอดกำลังทั้งหมดลงสู่ล้อได้ทั้งสองข้างก็ไม่ผลมากหากขาดลิมิเต็ดสลิป และอีกประการคือน้ำมัน  ที่ใช้้ในการหล่อลื่นและการซ่อมบำรุงจะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าระบบที่ไม่มี ลิมิเต็ดสลิปครับเพราะระบบมีความซับซ้อนกว่าครับ



วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2558

เรื่องน่ารู้ เกี่ยวกับกระจกไฟฟ้ารถยนต์


                           กระจกไฟฟ้าในรถยนต์นั้น  เมื่อก่อนอาจต้องเป็นอ็อปชั่นเสริมที่พิเศษ  และมีราคาแพงดูหรูหรา  แต่มาถึงทุกวันนี้แม้แต่ในรถยนต์ราคาถูกก็ยังมีให้จนในรถยนต์บางรุ่นหากยังเป็นระบบมือหมุนก็จะดูเป็นของแปลกไปเสียแล้ว
                           
                           เนื่องจากจุดอ่อนของระบบมือหมุนนั้นก็คือ  ตัวมือหมุนนั้นเองที่มักจะหัก  แตก  หลุด
โดยเฉพาะพวกรางเลื่อนที่ไม่ได้รับการดูแล  มักจะมีฝุ่น คราบน้ำที่แห้งติด จนทำให้เราต้องออกแรงหมุนมาก  มันจึงหัก แตกในที่สุดนั้นเอง 
                           แต่ในระบบกระจกไฟฟ้าเองก็พบปัญหานี้เช่นเดียวกันแต่  ส่วนที่รับภาระนั้นก็คือ มอร์เตอร์ไฟฟ้า ชุดรางเลื่อนในการยกกระจก  สาเหตุใหญ่ๆที่กระจกไฟฟ้ารถยนต์จะเสียนั้นมีอยู่หลักใหญ่ๆ คือ ฝุ่น  น้ำฝน  หรือน้ำที่ล้างรถ  ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปน้ำที่ไหลผ่านสักหลาดหรือยางขอบกระจกเข้าไปในร่องกระจก  และเข้าไปในประตูก็จะทำให้จาระบีที่คอยหล่อลื่นรางกระจกเสื่อมสภาพลง  และหมดไปในที่สุด  และเมื่อรางกระจกขาดการหล่อลื่นย่อมต้องฝืดเป็นธรรมดา  สังเกตุดูกระจกรถเลื่อนขึ้นไม่เร็วเหมือนแต่ก่อน
                           การดูแล  หรือแก้ไขก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรมากมาย  แต่ไม่ง่ายนะครับ  ถอดแผงข้างประตูออกมา  ระวังพวกตัวล็อค  กิ็บล็อคในจุดต่างๆอาจจะแตกหักได้คับ  จากนั้นเปิดแผ่นพลาสติกออกมา  หากมีสเปรย์จาระบียิ่งดีใหญ่  ฉีดคับฉีดไปที่รางยึดกระจก  ชุดยกเฟืองต่างๆที่พอจะมองเห็น  อ้อ เสร็จแล้วอย่าลืมใช้จาระบีฉีดไปที่ชุดกลอนประตูด้วยก็ดีครับ  ใหนๆถอดแผงข้างประตูแล้ว  เพราะชุดกลอนและเซ็นทรัลล็อคก็สำคัญคับ
            
               หากรู้สึกผิดปกติ กับกระจกเวลาที่กดขึ้นหรือลง  ควรหาเวลาซ่อมดีกว่าครับ  เหตุเพราะว่าหากปล่อยไปเรื่อยๆชุดกลไกต้องออกแรงรับโหลดมากๆอาจทำให้เฟืองแตก  เฟืองรูด ชุดยกหรือระบบสลิงขาด  หรือมอร์เตอร์ใหม้ได้  อุปกรณ์เหล่านี้ราคาค่อนข้างแพงครับ

วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2558

น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพ เป็นอย่างไร


                        ในรถยนต์ทุกวันนี้นอกจากน้ำมันเชื้อเพลิงที่เราเติมเพื่อให้รถยนต์สามารถที่จะขับเคลื่อนไปได้แล้ว  ยังมีน้ำมันเครื่ิองที่เป็นส่วนสำคัญมากที่จะช่วยลดความร้อน  หล่อลื่นชิ้นส่วนต่างๆในเครื่องยนต์อีกด้วยครับ และที่สำคัญจะต้องรักษาให้อยู่ในระดับที่พอดีกับปริมาณที่กำหนดมาจากโรงงานที่ผลิตนั้นๆด้วย
                         เท่าที่พบในรถยนต์รุ่นใหม่ๆมีอาการเปลืองน้ำมันเครื่อง  หรือน้ำมันเครื่องขาดก่อนระยะเปลี่ยนถ่ายสาเหตุน่าจะมาจาก เทคโนโลยีของน้ำมันเครื่องทุกวันนี้มีอายุเปลี่ยนถ่ายที่ยาวนานขึ้น  อีกสาเหตุหนึ่งก็คือการนำไอน้ำมันเครื่องกลับมาเผาใหม้ใหม่  ทั้งนี้เพื่อให้สามารถผ่านกฏหมายมลภาวะได้  ก็เลยเปลืองน้ำมันเครื่องกว่าแต่ก่อน
                         แต่หากว่าเราปล่อยให้น้ำมันเครื่องลดลงต่ำกว่าระดับที่กำหนดจะทำให้ชิ้นส่วนของเครื่องยนต์มีความร้อน  และการสึกหรอที่สูงขึ้นด้วย และในน้ำมันเครื่องที่เสื่อมสภาพนั้น ค่าดัชนีความหนืดจะเปลี่ยนแปลงไป  ค่าความหนืดลดลงและสูญเสียคุณสมบัติในการหล่อลื่นไปในบางส่วนและจะทำใหเครื่องยนต์สึกหรอสูงกว่าปกติ  ซึ่งน้ำมันเครื่องที่ดีนั้นจะต้องมีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอณูสูง  ไม่แตกกระจายได้ง่ายและจะต้องรักษาความเป็นฟีลม์บางๆของน้ำมันเพื่อที่จะเคลือบผิวโลหะไว้ได้ดีอีกด้วย
             
                         สาเหตุที่ทำให้น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพนั้นมีอยู่หลายประการคือ
1.Oxidation ในขณะที่เครื่องยนต์อยู่ในสภาวะที่อุณหภูมิสูง  จะทำให้มีอ็อกซิเจนรวมตัวกับน้ำมันเครื่องและผลที่ได้รับคือ  จะเกิด Organic Acid หรือยางที่เหนียว และ Organic Acid นี้ทำให้เกิดการกัดกร่อนชิ้นส่วนต่างๆของเครื่องยนต์ โดยเฉพาะผิวหน้าสัมผัสของชิ้นส่วน  และยางที่เหนียวนั้นจะเกาะติดอยู่ตามชิ้นส่วนต่างๆในเครื่องยนต์ และในระยะยาวจะทำให้ วาลว์ติด  ทางเดินน้ำมันเครื่องอุดตัน  หรือแหวนลูกสูบตาย  เป็นต้น
2.Dilution  เกิดจากน้ำมันเครื่องบางส่วนที่เผาใหม้ไม่หมดไหลกลับสู่ก้นอ่างทำให้น้ำมันเครื่องเจือจางลง  และฟีลม์ของน้ำมันเครื่องบางลง  คุณสมบัติของน้ำมันที่ดีลดลง
3.น้ำ  เมื่อ  น้ำมันกับอากาศเกิดการเผาใหม้  อ็อกซิเจนในอากาศจะรวมตัวกับไฮโดรคาร์บอน ( HC ) ซึ่งเป็นโครงสร้างของน้ำมันทำให้เกิดน้ำ ไอน้ำเหล่านั้นจะไหลออกทางท่อไอเสีย แต่เมื่อเครื่องยนต์ไม่ได้ใช้งานหรือเย็นลง  ไอน้ำจะจับตัวอยู่ตามผนังกระบอกสูบ และบางส่วนไหลลงสู่ก้นอ่างน้ำมันเครื่องด้วย
3.เขม่า  เกิดจากห้องเผาใหม้  จะมีมากในบริเวณหัวลูกสูบ
4.เศษผงฝุ่นที่หลุดลอดมาจากไส้กรองอากาศ (บางคันถอดไส้กรองออกเลยก็มี)
5.เศษโลหะหนัก  ที่เกิดจากการสึกหรอตามปกติของเครื่ิองยนต์
                       เมื่อสิ่งสกปรกเหล่านี้รวมตัวกันก็จะเกิดตะกอนสีดำ น้ำตาล หรือเทาลักษณะคลายโคลนอ่อนๆจะเห็นว่าขนาดมีใส้กรองน้ำมันเครื่องที่แท้ขนาดใหนก็ไม่สามารถที่จะกรองได้หมด100% แน่นอนดังนั้นควรเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่องทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง คู่กับการทำความสะอาดไส้กรองอากาศ และเลือกใช้น้ำมันเครื่องให้เหมาะสมกับประเภทเครื่องยนต์ของเราด้วย  หากไม่รู้จริงๆปรึกษาอู่หรือช่างครับ  จะได้มีเครื่องยนต์ที่พร้อมให้เราใช้งานอยู่เสมอ.

วันเสาร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2558

อาการขัดข้อง หลังจากวื่งลุยน้ำ,แช่น้ำ


                              รถยนต์ที่ผ่านการวื่งลุยน้ำ,แช่น้ำ หรือน้ำเข้ารวมถึงไอชื้น  จะด้อยประสิทธิภาพในการทำงาน  สมรรถนะลดลง  หรือมีเสียงดังแปลกๆเพิ่มเข้ามาในขณะขับ,เบรค หรือหนักขึ้นจนถึงขนาดหยุดการทำงานได้
                              เนื่องจากในระบบการทำงานของรถยนต์นั้นประกอบด้วยชิ้นส่วนมากมายมีทั้งโลหะ อุปกรณ์ทางระบบไฟฟ้า แบ่งเป็นระบบใหญ่ๆได้เช่น

1.ระบบกลไก  หรือระบบจักกลต่างๆ 
เช่น  ระบบช่วงล่าง  ลูกปืนล้อ  ชุดครัช  เฟืองเกียร์  ซึ่งระบบกลไกเหล่านี้ถ้าเปียกชื้นจะทำให้เกิดสนิมขึ้นเกิดการสึกหรอเร็วกว่าปกติ  ประสิทธิภาพการทำงานลดลง  หรือหยุดการทำงานได้หากมีการแตก หัก


2.ระบบไฟฟ้า  เนื่องจากในรถยนต์เกือบทุกชนิดจะใช้กระแสไฟฟ้าตรง  หรือ DC - Derctcurren เมื่ออุปกรณ์ไฟฟ้าถูกความชื้น  หรือเปียกน้ำ (ยกเว้นน้ำกลั่น) ซึ่งน้ำจะยอมให้กระแสไฟฟ้าผ่านได้จึงทำให้เกิดการลัดวงจร  ทำให้อุปกรณ์ทำงานไม่ดี ไม่ได้ หรือวงจรเกิดสนิม

3.ระบบหล่อลื่น  ซึ่งเป็นหลักของการเคลื่อนไหวของกลไก  และเนื่องจากความคล่องมาจากการหล่อลื่น  หากการหล่อลื่นมีความชื้น  มีน้ำเข้ามาในระบบจะทำให้ค่อยๆลดประสิทธิภาพ  และหยุดทำงานในที่สุด

               ดังนั้นหากรถยนต์เราเพิ่งไปลุยน้ำมาในระดับน้ำที่สูงกว่าปกติ  หรือต้องอยู่ในสภาพที่เปียก ชื้น  มีการแก้ไขเบื้องต้นได้ครับ

1.ทำให้จุดที่เปียก ชื้น ของพวกชุดเครื่องไฟฟ้าแห้ง โดยการเช็ด ใช้ลมแรงเป่า จุดใดที่มีอุปกรณ์ที่
เปลี่ยนได้ในราคาไม่แพง  ควรเปลี่ยน เช่น ฟิวส์ รีเลย ต่างๆ

2.เปลี่ยนระบบหล่อลื่นต่างๆ  ได้แก่ น้ำมันเครื่อง เกียร์ เฟืองท้าย เพาเวอร์  ถ้าพบว่าสีเปลี่ยน  โดยส่วนมากจะเปลี่ยนเป็นสีขุ่นขาวครับ

3.เช็คระบบกลไกต่างๆ ระบบครัช เบรค เกียร์  หรือในทางอ้อมก็ใช้ไปแล้วสังเกตุอาการแล้วค่อยทยอยซ่อมเป็นจุดก็ได้
4.นำรถยนต์  ไปอู่ซ่อมรถยนต์ที่รู้จริงตรวจสภาพต่างๆ

      กรณีที่รถยนต์จมน้ำนะครับ  หรือท่วมถึงเครื่องยนต์  ห้ามพยายามติดเครื่องยนต์เด็ดขาดนะครับ  ให้ลากไปที่สูง  หรืออู่  แล้วทำความสะอาดระบบไฟฟ้า ก่อนที่จะดูระบบอื่นๆต่อไป  แน่ใจแล้วถึงลองติดเครื่องได้ครับ




วันศุกร์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

อาการขับอยู่ดีดีเครื่องดับ โดยไม่มีไฟอะไรโชว์เตือนก่อน และคล้ายน้ำมันหมด (อีกสาเหตุหนึ่ง)


                                     เมื่อเครื่องยนต์เข้าสู่ยุคของคอมมอลเรลสิ่งที่หลีกเลื่ยงไม่ได้คือระบบไฟฟ้าที่ซับซ้อนขึ้น  และมีอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆที่จำเป็นต้องเพิ่มเข้ามาในระบบเครื่องยนต์เพื่อให้มันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
                                     หนึ่งในอุปกรณ์ที่เพิ่มเข้ามาคือ ปั้มแรงดันสูง  หรือปั้มติ็กน้ำมันดีเซล  โดยหลักการคล้ายกับการทำงานของเครื่องยนต์เชื้อเพลิงเบนซิล  คือสร้างแรงดันน้ำมันอัดเข้าสู่รางหัวฉีด (รางคอมมอลเรล) เพื่อรอให้หัวฉีดเปิด และปิด ตามจังหวะการจุดระเบิดในห้องเผาใหม้และเกิดการสันดาปเพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานกลนั้นเอง
                                     ดังนั้นแรงดันที่คงที่และสม่ำเสมอจึงมีผลต่อการทำงานของเครื่องยนต์  ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากปั้มน้ำมันที่สามารถสร้างแรงดันได้ดังกล่าวคับ  และเพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรหรือปั้มช็อตใหม้ จึงต้องมีไส้กรองน้ำมันซึ้งเป็นไส้กรองที่มีความละเอียดพอที่จะดักผงสกปรกเล็กๆได้ดี
แต่เมื่อผ่านการใช้งานไปนานๆย่อมต้องมีการอุดตันคับ  ดังรูปตัวอย่างของเก่าและใหม่คับ  แต่ส่วนใหญ่ที่พบปั้มจะช็อต  และเสียแล้วทำให้ไม่สามารถที่จะถอดทำความสะอาดได้ทันแล้วจึงต้องเปลี่ยนอย่างเดียว  และเนื่องจากว่าการที่จะถอดทำความสะอาดนั้นต้องถอดถ้งน้ำมันออกมาเพราะปั้มอยู่ในถังเป็นส่วนใหญ่
                    หากลองสังเกตุอาการรถยนต์ว่า  แรงตกบางครั้งมีอาการสะดุดหรือบางที่ดับเอง  สตาร์ตใหม่ก็ติดได้ปกติ  อาจเป็นอีกอาการที่ปั้มแรงดันน้ำมันเริ่ออุดตันได้ค้บ
                                   
                                    

วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

อาการเวลาลงสะพานเป๋ เข้าโค้งท้ายดิ้น หรือช่วงล่างสะท้าน เพราะโช้คอัฟเสีย


                                                 โช้คอัฟ  หรือ SHOCK ABSORBER 
                    จริงแล้วหน้าที่หลักของโช้คอัฟก็คือ  ลดการสะเทือนของช่วงล่างโดยไปลดแรงดึงกลับของระบบช่วงล่าง เช่น  แหนบ  สปริง ทอร์ชั่นบาร์  ซึ่งมันจะทำให้

                   1.ลดการโยนตัวของรถ
                   2.เพิ่มความนิ่มนวนในการโดยสารและขับขี่
                   3.ช่วยยืดอายุของกลไกช่วงล่าง
                   4.รักษาระดับการทรงตัวให้คงที่ตลอดเวลา
โดยหล้กการทำงานนั้นก็คือ  ยอมให้ยุบตัวลงง่าย  แต่ยืดตัวยาก การยืดและยุบตัวนั้นขึ้นอยู่กับขนาดระยะชักของโช้คอัฟ  และสเปคการเปิดปิดของวาลว์ของแกนโช้คอัฟและความหนืดของน้ำมัน  และแก็สที่บรรจุอยู่ภายใน
                    ดังนัั้นโช้คอัฟที่ขนาดเท่ากันอาจมีประสิทธิภาพต่างกันได้  ขนาดของโช้คอ้ฟไม่ใช่ข้อกำหนดในความแข็ง  ความหนืดเสมอ
สำหรับอาการของ โช้คอัฟที่ชำรุด  เสีย  ทำงานไม่เท่ากันทั้งสองข้างมีสาเหตุเช่น 
                    ซีลรั่ว  ทำให้น้ำมัน  แก็สรั่วออกมาและมีค่าความหนืดลดลง   
                    วาลว์แกนโช้คอัฟเสีย  มีผลต่อการยุบและยืดตัว  ช้าไปหรือเร็วเกินไป
และจะส่งผลให้การทำงานของช่วงล่างทั้งสองข้างทำงานไม่สัมพันกันได้ เช่นเวลารถลงสพานล้อรถไม่แตะพื้นพร้อมกันในขณะแกนโช้คอัฟยืดต้ว  ก็ทำให้รถแฉลบ  เวลาเข้าโค้งท้ายสะบัดเนื่องจากค่าความหนืดของโช้คอัฟลดลง
           การดูแลรักษาควรถอดดู  ถีงแม้ไม่มีคราบน้ำมันซึมก็ตามในระยะ 50000 กม.หรือ 3 ปีครับ ทั้งนี้จะส่งผลให้ช่วยยืดอายุของช่วงล่าง  และมีประสิทธิภาพในการทรงตัวที่ดีคร้บ.

วันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

อาการ เข้าเกียร์ยาก เข้าเกียร์ดัง เลี้ยงครัชสั่น

         
                           ในรถเกียร์ธรรมดาจำเป็นที่จะต้องมีชุดครัช  เพื่ิอทำหน้าที่ในการตัด-ต่อกำลังจากเครื่องยนต์เช้าสู่ชุดเกียร์และถ่ายแรงลงสู่ล้อ
                            การใช้งานปกติ  เมื่อเราเหยียบครัชชุดลูกปืนกดครัชจะไปกดชุดครัช  เพื่อให้แผ่นครัชไม่หมุนตามฟลายวิลทำให้เราเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ให้เหมาะสมกับความเร็วได้       และหลังจากที่เราเริ่มปล่อยขาครัช  ชุดครัชจะกดแผ่นฟลายวิลเพื่อส่งถ่ายแรงผ่านแผ่นครัชโดยมีแกนเกียร์สอดอยู่กลางแผ่นครัช
                           แต่ในบางครั้งการทำงานอาจไม่ปกติ  เช่น
1.เข้าเกียร์ยาก
2.เข้าเกียร์ดัง  และเป็นเสียงดังจากเฟืองเกียร์ขบกัน
3.ครัชสั่น  ในขณะออกรถ หรือในบางครั้งมีกลิ่นเหม็นใหม้ด้วย

ส่วนหนึ่งของอาการดังกล่าวมาจาก แผ่นครัชเลอาะน้ำมันเครื่องยนต์ ที่ซึมออกมาจากซีลท้ายเครื่องยนต์ที่รั่วออกมา หรือซีลเพลาเกียร์รั่วทำให้น้ำมันเกียร์รั่วออกมาเกาะที่แผ่นครัช และน้ำมันที่รั่วออกมานี้จะทำให้แผ่นครัชที่เลอาะน้ำมันนี้เกิดอาการลื่น  ทำให้ประสิทธิภาพลดลงและเกิดโอกาสที่แผ่นครัชไม่หมุนตามฟลายวิลทำให้มีกลิ่นเหม็นใหม้ตามมา
                      
                           ทั้งนี้ควรเช็คปั้มครัชบนและล่างด้วยในกรณีที่เข้าเกียร์ยาก  ครัชต่ำ  และปริมาณน้ำมันเกียร์ทุก 20000 กม.  แก้ไขก่อนเกียร์จะพังนะคับเพราะค่าใช้จ่ายราคาต่างกัน


 

วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

อาการเครื่องเดินสั่น เปลืองเชื้อเพลิง ท่อเหม็น เพราะหัวเทียนหมดสภาพ


                         เนื่องจากในเครื่องยนต์ระบบสันดาปภายใน  หรือ SI (SPARK IGNITION) ไม่ว่าจะทำงานแบบ 2จังหวะ หรือ 4จังหวะ ก็ต้องอาศัยหัวเทียนเป็นตัวจุดระเบิด  เพื่อสร้างประกายไฟให้เชื้อเพลิงที่ผสมกับอากาศที่เหมาะสมตามอัตราส่วน  ซึ่งจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับสเปคโรงงาน  หรือการปรับจูนนะคับ  เมื่อเกิดการเผาไหม้ก็จะเปลี่ยนจากพลังงานเคมีไปดันลูกสูบเป็นพลังงานกล  และส่งต่อไปสู่ชุดขับเคลื่อนต่อไป
                         ในความสมบูรณ์ของการเผาใหม้นั้นหัวเทียนจึงมีความสำคัญมากคับ  เพราะการที่จะสร้างประกายไฟให้สม่ำเสมอ  แรง  มีรัศมีในการจุดระเบิดที่ดี จะส่งผลโดยตรงต่อเครื่องยนต์ 

แต่ว่าต่อให้เรามีหัวเทียนที่มีราคาแพง หรือมีหลายเขียวเท่าใดก็ตาม  ก็จะได้ประกายไฟเท่ากับแหล่งกำเหนิดคือ  คอยล์สร้างกระแสไฟแรงสูงทั้งนี้เนื่องจากสาเหตุดังนี้คับ

1.การต่อลงกราวด์ไม่ดี  เช่นเกลียวหัวเทียนสกปรกทำให้ประกายไฟที่โดดจากแกนกลางสู่กราวด์ไม่       สะดวก
2.เขียวหัวเทียนสกปรก  เนื่องจากมีคราบเขม่า  หินปูน เศษน้ำมันเครื่องเกาะ
3.แกนกลางของหัวเทียนสึก  กร่อน  เนื่องจากใหม้  ชำรุด
4.ระยะห่างของเขี้ยวหัวเทียนกับแกนกลางมากเกินสเปคโรงงาน  ทำให้ประกายไฟกระโดดไม่สะดวก
5.อายุของหัวเทียน

ทั้งนี้ควรตรวจเช็คสภาพ  อายุของสายหัวเทียน  คอยล์จุดระเบิด ทุก 20000 กม. ได้จะเป็นการดีมากคับ

วันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เมื่อรถยนต์สตาร์ทไม่ติด ทำไงดี


                       หากเราสตาร์ทรถไม่ติด  มีสาเหตุใหญ่ไม่กี่อย่างที่พอจะให้เราเช็คได้เองในเบื้องต้นได้คับ

1.กรณีจอดไว้นานนาน 
                        1.1 หากบิดกุญแจสตาร์ทแล้วเงียบ  แต่ในตำแหน่งกุญแจ ON มีไฟโชว์ที่หน้าปัดปกติ
                              แบตตารี่อาจมีไฟน้อยไม่พอให้ไดร์สตาร์ททำงาน
                              การแก้ไข  ชาร์ตแบตใหม่ .ตรวจขั้วแบตทั้งสองขั้วว่าแน่นดีหรือปล่าว
                        1.2 หากบิดกุญแจสตาร์ทแล้วเงียบ และในตำแหน่งกุญแจ ON ไม่มีไฟโชว์ที่หน้าปัด
                              เกีอบ100% แบตหมด หรือขั้วแบตหลวม
                              การแก้ไข  ชาร์ตแบตใหม่ .เช็คขั้วแบตคับ
                        1.3 สตาร์ทได้แต่ไม่ติด ถ้าน้ำมันไม่หมด.แก้สไม่หมด ตามช่างคับ ทางเทคนิคไม่แนะนำให้ทำต่อ

2.กรณีขับมาจอดแป็บเดียวสตาร์ทไม่ติดซะงั้น
                         แบบนี้ไล่ยาวหน่อย ถ้ารถเราอายุมากพอสมควร  ลองเช็คตามแบบข้อ1 ก็ได้นะคับ
หากนอกจากนี้ก็ไม่อยากแนะนำให้ทำต่อเพราะอาจเป็นไปได้หลายอย่างเช่น
                       2.1 ปั้มเชื้อเพลิงเสีย เป็นได้ทั้งดีเซลคอมมอนเรล และเบนซิน
                       2.2 กรณีเครื่องยนต์เบนซิน + LPG ปั้มติ็กแก้สหรือน้ำมันอาจเสีย ลองเปลี่ยนโหมดสตาร์ทดูคับ
                       2.3  กรณีเครื่องยนต์เบนซิน + LPG หากขณะสตาร์ทไม่มีไฟขึ้นโชว์ที่สวิท ออโต้แก้ส ไฟที่มาเลี้ยงสวิทอาจขาดหายไป ถ้าเป็นแก้สระบบหัวฉีดจะมีฟิวส์อยู่ข้างแบตเป็นส่วนใหญ่ฟิวส์อาจขาด
                       2.4 หัวเทียนเสื่อม .สายหัวเทียนเสื่อม .คอยล์จุดระเบิดเสื่อม
                       2.5 โดยสภาพเครื่อง

            ทั้งนี้อาการเหล่านี้มักจะมีอาการเตือนก่อนเสมอขึ้นอยู่กับว่าเราจะสังเกตุความผิดปกติและใส่ใจในการดูแลชิ้นส่วนที่ควรเปลี่ยนตามอายุของมันหรือปล่าวเท่านั้นเองคับ  ของฟรีไม่มีในเครื่องยนต์ ต้องแลกมาแทบทั้งสิ้นคับ

วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2558

เทอร์โบแปรผันดีอย่างไร


                       ระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบ  ในการอัดอากาศของเทอร์โบนั้นจะอาศัยการหมุนของใบกังหันหรือที่เรียกว่าใบเทอร์ไบน์  และแกนใบทางใอดีจะหมุนตามใบเทอร์ไบน์ทางฝั่งไอเสีย และใช้ความเร็วสุงจนเกิดแรงดันอากาศขึ้นมา
                       ดังนั้นการที่จะทำให้เกิดแรงดันอย่างรวดเร็วได้นั้นก็ต้องทำให้ใบพัดด้านไอเสียหมุนอย่างรวดเร็วที่สุด  ซึ่งมันก็จะขึ้นอยู่กับค่า A/R หรือขนาดของโข่งหล้งเทอร์โบนั้นเอง
                       อ่านแล้วงงงงงง   เอาง่ายๆคือ
          *ถ้าโข่งหลังมีขนาดเล็ก  จะทำให้ใบพัดหมุนเร็ว  บูสท์มาเร็วแต่รอบปลายจะเกิดอาการอั้นของไอเสียทำให้แรงเครื่องยนต์ตกได้
          *ถ้าโข่งหลังมีขนาดใหญ่  ย่อมจะทำให้ใบพัดหมุนได้ช้า  แต่รอบสูงจะหมุนได้เร็วและไม่อั้นไอเสียทำให้มีแรงม้าในรอบปลายได้  นั้นเอง

                      ดังนั้นเทอร์แบบแปรผัน  หรือที่แล้วแต่บริษัทจะเรียกเช่น
             VNT  variable nozzle turbo
             VGT  variable geometry turbo
             VTG  variable turbine geometry
จริงแล้วเทอร์โบแบบนี้มีมานานแล้วในต่างประเทศ  แต่ในสมัยแรกยังไม่นิยมมากเหตุเพราะว่า  กลไกของเทอร์โบแบบแปรผันนี้ค่อนข้างซับซ้อนกว่าเทอร์โบทั่วไป  และวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้จำเป็นที่ต้องทนความร้อนให้ได้ในระดับ พันองศา และมีอายุการใช้งานที่สั้น

                  แต่ด้วยความสามารถและเทคโนโลยีสมัยนี้  หลายบริษัทชั้นนำต่างก็ผลิตและคิดค้นพัฒนาจนทำให้เทอร์โบแปรผันนั้นคงทนมากขึ้น  และเป็นที่นิยมในรถยนต์เกือบทุกยี่ห้อทั้งเครื่องยนต์ดีเซล  และเบนซิน

วันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2558

อุณหภูมิไอดี ผลกระทบโดยตรงต่อประสิทธิภาพเครื่องยนต์

                      อุณหภูมิไอดี  ยิ่งต่ำเท่าไหร่ยิ่งดีเพราะยิ่งอุณหภูมิไอดีต่ำก็ยิ่งทำให้ออกซิเจนหนาแน่นมากขึ้นเท่านั้น  การระเบิดก็จะยิ่งรุนแรงและส่งผลให้กำลังมากขึ้นด้วย  เราจะสังเกตุเห็นว่ารถยนต์ส่วนใหญ่จึงต้องเจาะช่องที่กันชนไว้เพื่อรับลมที่เย็นจากอากาศภายนอกห้องเครื่องยนต์  หรือบางคันจะใส่ฝากระโปรงหน้ารถที่มีช่องบนฝาเพื่อระบายอากาศที่ร้อนจากภายในห้องเครื่องยนต์ออกไปแต่ส่วนใหญ่จะพบในรถแข่ง ดังนั้นหากเป็นเครื่องยนต์เทอร์โบ  อินเตอร์คูลเลอร์ที่เห็นอยู่หน้ารถหลังหน้ากากหรือหน้ากระจัง หรือหลังกันชนหน้าเพราะต้องการลมที่เย็นจากภายนอกมาช่วยในการทำให้อากาศก่อนที่จะเข้าสู่ห้องเผาใหม้ ก็นับว่าอินเตอร์คูลเลอร์เป็นอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นเหมือนกับคับ
                     หรือในบางคันก็จะเปลี่ยนให้อินเตอร์คูลเลอร์มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
                       

วันพุธที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ชุดกันโคลงหลวม เสียงดังรำคาญ ,สะท้าน แต่ชุดลูกหมากไม่หลวม


                          อาการ  เกิดเเสียงดังรำคาญจากชุดช่วงล่างหน้า  เป็นอาการผิดปกติท่ีรู้สีกได้แต่จับจุดไม่ได้มาจากระบบเสริมการทรงตัว หรือ STABILISER BAR , BALANCE BAR , ANTI ROLL BAR
หรือแล้วแต่จะเรียกกัน แต่ส่วนใหญ่เรียกแบบบ้านๆ คือเหล็กกันโคลง  ลักษณะเป็นเหล็กแท่งกลมขดเป็นรูปตัว  U  หรือบางแบบมีวัสดุอื่น  บางแบบมี 2 - 4 ชิ้นส่วน และจะยึดเกาะกับช่วงล่างในส่วนปลายสองข้าง  ส่วนตรงกลางยึดแน่นกับตัวถัง
                         การทำงานนั้นจะทำให้ล้อซ้าย - ขวาคงระดับให้ใกล้เคียงกันมากที่สุด ,ลดระยะสูงต่ำเพื่อไม่ให้ตัวถังเอียงทำมุมมากเพราะมีผลต่อการบังคับรถ

                         หากพบอาการดังกล่าวข้างต้นและเช็คแล้วว่ากลไกในระบบลูกหมากมีสภาพดี  ก็ลองตรวจเช็คจุดยึดของเหล็กกันโคลงดู  อาจมาจากบูชยึดลูกหมากปลายกันโคลง  หรือแขนยึดหลวมก็เป็นได้คับ

วันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2558

อาการเครื่องยนต์ ดีเซลคอมมอนเรล(CDI) เบาสั่น,อัตตราเร่งเพี้ยน,เปลีองน้ำมัน




                    จากสาเหตุ  ขาดการตรวจเช็ค,จากอายุ,บางครั้งมาจากกลไกเสื่อมสภาพ,มาจากคุณภาพ
                    น้ำมันเชื้อเพลิง

ส่วนใหญ่จากอายุการใช้งานเป็นหลัก  ทั้งนี้ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลงแบบCDI ที่มาแทนระบบเดิม DI (DIRCET INJECTION และระบบ SWIRL CHAMBER COMBUSTION) ในอดีตซึ่งถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงเทคนิคในการระบบจ่ายน้ำม้น
เอาแบบเข้าใจง่ายหน่อยคือ  ระบบ cdi หรือที่เราใช้กันทุกวันนื่คือ คอมมอนเรลเนี้ยนะคับจะใช้ปั้มสร้างแรงดันน้ำมันให้สูงไปยังรางหัวฉีด  และจะสะสมแรงดันจนกว่าหัวฉีดที่มี ecu ควบคุม สั่งปล่อยให้เชื้อเพลิงผ่านเข้าห้องเผาใหม้ เพื่อผสมกับอากาศที่ร้อนจัดจากการอัดของลูกสูบ  และเกิดการสันดาปและลุกใหม้กับน้ำมันเชื้อเพลิง ดังนั้นรางคอมมอนเรลจึงมีผลต่อประสิทธิภาพของเครื่องยนต์
                   ปัญหาที่พบบ่อย
       1. เกิดการคลายตัวของน็อตยึดท่อทางเดินของน้ำมัน  ทำให้มีอากาศไหลเข้าสู่ระบบน้ำมันเป็นฟอง
       2. ตัวควบคุมแรงดันให้รางหัวฉีด ทั้งระบบกลไก และระบบไฟฟ้าเสื่อม  ทำให้แรงดันน้ำมันไม่่สม่ำเสมอในขณะเครื่องยนต์ทำงาน
       3. ปั้มสร้างแรงดันเสื่อม ,เสืย

สภาพดังกล่าวโดยมากมักเกิดจากการสึกหรอจากการทำงาน  จากคุณภาพของน้ำมัน  และส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานผิดจากสเปค  เกิดอาการเบาสั่น, อัตราเร่งไม่สมำเสมอ, กินเชื้อเพลิง, บางครั้งมีรั่วซึม
การตรวจเช็คตามระยะทาง  และหมั่นตรวจเช็คสังเกตุอาการผิดปกติด้วยตัวเองก็จะช่วยยืดอายุเครื่องยนต์ได้อีกทางคับ

วันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2558

การบำรุงรักษาเกียร์ออโต้เมติกส์ GEAR AUTOMATIC

                     
                 ในที่นี้ขอเสนอเฉพาะเกียร์ออโต้ระบบธรรมดาทั่วไป ที่ยังไม่ใช่ระบบเกียร์ CVT นะคับ
        
                 เกียร์ออโตเมติกส์ หรือเกียร์ออโต้ที่เราเรียกกันบ่อยๆ  เวลาที่เสียขึ้นมาราคาในการซ่อมบำรุงรักษาค่อนข้างแพงคับ  และหากเปลี่ยนชุดซ่อมไม่ครบ ซ่อมมาก็ไม่ค่อยจบในส่วนมากทางอู่มักแนะนำให้ลูกค้ายกเกียร์มือสองมาเปลี่ยน  หรือที่เราเรียกว่าอะหลั่ยเชียงกง จริงแล้วมันก็ใช้ได้นะคับถูกกว่าซ่อมและใช้เวลาซ่อมเร็วกว่า (เปลี่ยนอย่างเดียว) แต่ต้องเสี่ยงหน่อยเพราะมันเป็นของมือสองต้องทำใจเพื่อไว้บ้าง  นอกจากเจออู่ที่เวลามีปัญหาพอจะช่วยเหลือกันและมีประกันให้ถึงจะระยะเวลาสั้นก็ยังดี
              
                 ทีนี้มาลองอ่านต่อดูถ้าสนใจ 
                 มีวิธีอะไรบ้างที่จะช่วยยืดอายุของเจ้าเกียร์ออโต้ได้บ้าง
1. วิ่ง 20000 -25000 กม. ถ่ายน้ำมันเกียร์ซักครั้ง  หรือจำง่ายๆ เราถ่ายน้ำมันเครื่อง 2-3 ครั้งถ่ายน้ำมันเกียร์ด้วยซักครั้งก็ได้  หลายคนคงบ่นว่าเปลืองมาก แต่เกียร์ออโต้ใช้คุณภาพของน้ำมันในการทำงานของมันให้สามารถปรับเปลี่ยนแรงบิดให้เหมาะสมกับในแต่ละช่วงเวลาการทำงานนะคับ

2. ใช้รถมาซัก 2 ปี ควรเข้าอู่เปิดอ่างน้ำมันเกียร์ เพื่อถอดใส้กรองออกมาล้างบ้าง ในภาพเป็นภายในเกียร์ที่เปิดอ่างแล้ว  เพราะอย่างทีบอกเกียร์ออโต้ใช้คุณภาพของน้ำมันในการทำงานของมันให้สามารถปรับเปลี่ยนแรงบิดให้เหมาะสมกับในแต่ละช่วงเวลาการทำงาน ดังนั้นจึงต้องอาศัยแรงดันของน้ำมันด้วย  หากใส้กรองอุดตันก็ส่งผลให้การทำงานผิดผลาดได้
           เช่น  2.1 จอดรถนานนานเช่นจอดข้ามคืนพอเช้ามาต้องติดเครื่องเข้าเกียร์ซักพักรถถึงเคลื่อนที่ได้
                   2.2 เวลาเกียร์เปลี่ยนมีอาการกระชาก  กระตุก
3. ใช้น้ำมันเกียร์ที่มีเกรดเดียวกับที่ผู้ผลิตกำหนดให้ใช้ ลองชักไม้วัดน้ำมันเกียร์ดูที่ปลายไม้วัด  ส่วนใหญ่จะมีปั้มมาบอกเกรดน้ำมัน เช่น DEXRON 2      หรือ 3  
       
                          ลองดูนะคับเสียเวลาและเงินหน่อย ถ้ากะว่าใช้ยาวกับรถสุดรักของเรา

วันอาทิตย์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ปั้มน้ำเครื่องยนต์ สำคัญนะคับ



                                                ปั้มน้ำของเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำเป็นตัวหล่อเย็น 
              ปั้มน้ำเป็นตัวที่ทำให้เกิดการหมุนเวียน  และพาเอาความร้อนที่เกิดขึ้นในระบบการทำงานของเครื่องยนต์ออกมาจากตัวเครื่องยนต์  และลดอุณหภูมิลงเพื่อไม่ให้เครื่องยนต์เกิดการเสียหาย
โดยการหมุนของปั้มน้ำที่ใช้สายพานคล้องกับเพลาข้อเหวี่ยง  
              ในการหมุนของปั้มน้ำนั้นจะหมุนเร็วกว่าเพลาข้อเหวี่ยงอยู่ปนะมาณ  1.2 - 1.6 เท่า  และมีอายุในการเปลี่ยนที่  120000 กม. หรือ 150000 กม.    ในภาพตัวอย่างเป็นด้านหลังจะเห็นว่ามีครีบใบพัดอยู่หลายใบ
               คุณภาพของน้ำหล่อเย็นก็มีผลนะคับ  เพราะน้ำทำให้โลหะผุ  และในน้ำยาหล่อเย็นจะมีสารเคมีที่ช่วยลดการกัดกร่อนได้  เมื่อน้ำยาหมดประสิทธิภาพลงก็จะทำให้ไม้ใช้แค่ปั้มน้ำที่ผุ  แต่ส่งผลต่อชิ้นส่วนของเครื่องยนต์ที่เป็นโลหะทั้งหมดคับ
               หากอยากใช้ไปเรื่อยๆไม่ต้องเปลี่ยนอย่างที่บอก  ก็คอยสังเกตุปริมาณน้ำในกระป๋องหม้อพักน้ำเอาก็ได้คับ  ดูตอนเช้าก่อนออกรถหรือ 2-3 วันดูที    หากน้ำหายมากผิดปกติลองมองหาจุดที่น้ำรั่ว หรือนำรถเข้าเช็คดีกว่าคับ

วันศุกร์ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

การดูแลสายพานหน้าเครื่อง


                    บรรดาอุปกรณ์ต่างไม่ว่าจะเป็น  คอมแอร์  ไดชารต์  ปั้มน้ำหล่อเย็น  ป้ัมพวงมาลัยเพาเวอร์  หรือปั้มคอมมอนเรลที่แม้ใช้เฟืองขับ  แต่ก็ต้องใช้สายพานในการคล้องแค็มชาฟท์  ในการหาจังหวะจุดระเบิด
                    จะเห็นว่าอุปกรณเหล่านี้คล้ายกาฝากที่คอยมาดึงกำลังของเครื่งยนต์  แต่มันจำเป็นครับและยังต้องมี เพราะมนุษ์ยังคิดไม่ออก  และแน่นอนมันถูกออกแบบตามลักษณะของเครื่องยนต์  บางรุ่นแยกใช้หน้าที่แบ่งเป็นหลายเส้น  บางรุ่นใช้เส้นเดียวคล้องหมดทุกอย่างอันนี้เสียวหน่อย ทีนี้คงเห็นแล้วว่ามันสำคัญล่ะ  ถ้าขาดขึ้นมากลางทาง
                   การดูแลสายพานทำได้ไม่ยากคับ  เนื่องจากอยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นได้ง่ายๆ
นอกจากนี้สายพานในส่วนที่คล้องแค็มชาฟท์หากขาดขึ้นมาตอนเครื่องยนต์ทำงานอยู่  จะเกิดความเสียหายกับชิ้นส่วนภายในมากด้วคับ(ต้องเปิดฝาสูบบ่อยๆก็เจอคับ  เพราะวาลว์คด)

     ดูเบื้องต้นดังนี้คับ

1.  ฟังเสียง แปลกจากที่เคย  เสียงเสียดสี
2.  เอานิ้วกดดู  แต่อย่ากดตอนเครื่องติดละ จะมีช่วงยืดหยุ่นประมาณ1นิ้วคับ
3.  มีรอยแตก
4.  จำไม่ได้ว่าเปลี่ยนเมื่อไหร่
                   ถ้ามีอาการตามนี้หาเวลาเปลี่ยนะคับจะได้ไม่ต้องจอดเสียหงุดหงิดกลางทางคับ

วันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

วิธี ดูอายุของยางรถยนต์

 
                                        เข้าเรื่องเลยครับ ถ้าเราสังเกตุดูที่ขอบยางรถยนต์ (ถ้าไม่เจอ ??? มุดครับ อยู่ด้านในของยางหมายถึงอีกด้านของแก้มยางนะคับไม่ใช้ในเนื้อยาง แต่ถ้าไม่อยากรู้ผ่านครับ)
          ข้อความในวงรีนะคับ DOT 2514
          DOT  ( department of Trannsportation )
          25      สองหลักแรกคือ สัปดาห์ที่ผลิตคับ
          14      สองหลักหลังคือ ปีที่ผลิตคับ
                                          ในภาพยกมาเป็นตัวอย่าง ผลิตสัปห์ดาที่41 ในปี่ที่ผลิต2012คับ หวังว่ามี
          ประโยชน์แก่ผู้สนใจนะคับ
                                          
          *เพื่อนๆมีคำถามหรืออยากแชร์ความรู้ใดก็ inbox มาได้  ตอบได้ตอบไม่กักไม่เม้ม คับ
 
 
 

วันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

รอบเดินเบาไม่นิ่ง ไฟไม่ชารต์ เพราะ ลิ้นเร่งและ isc vave สกปรก


             หน้าที่ของลิ้นเร่ง
ชิ้อก็บอกอยู่แล้วว่าลิ้นเร่ง คือคอยเปิด-ปิดอากาศตามปริมาณที่เครื่องยนต์ต้องการ ง่ายๆ
คือ ตามที่เท้าเรากดคันเร่งนั้นเอง

อาการที่พบเบื้องต้น 1.รอบเดินเบาเครื่องไม่นิ่ง
                                 2.เกิดปัญหาไฟไม่ชาตร์ เนื่องจากรอบเดินเบาต่ำ
                                 3.หากใช้แก็สเป็นเชื้อเพลิง อาจเกิดอาการ back fire
            
            บางครั้ง บางอู่ บอกว่าไดร์ชาตร์พังก็เคยเจอ
            และเคยมีขนาดเปลื่ยนแบตตารี่ก็เคยเจอคับ ทั้งที่ปัญหาเกิดจากตัวลิ้นเร่งแค่สกปรก
            เช่น รุ่น vios พอรอบต่ำมาก ไฟก็ไม่ชารต์

            วิธีแก้ไข
ถ้าเอาเฉพาะหน้าก็ถอดท่ออากาศก่อนเข้าลิ้นเร่งออก แล้วใช้น้ำยาเอนกประสงค์
ประเภท sonax,wd40 ก็ได้ฉีดใส่ไปที่ลิ้นเร่ง แล้วใช้ผ้าเช็ดเข่มาดำดำออก
เสร็จแล้วประกอบท่ออากาศลองติดเครื่องดู สังเกตุรอบเดินเบา
หากไม่ดีขึ้นแนะนำให้ไปหาอู่ซ่อมจ้า