วันอาทิตย์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2558

น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพ เป็นอย่างไร


                        ในรถยนต์ทุกวันนี้นอกจากน้ำมันเชื้อเพลิงที่เราเติมเพื่อให้รถยนต์สามารถที่จะขับเคลื่อนไปได้แล้ว  ยังมีน้ำมันเครื่ิองที่เป็นส่วนสำคัญมากที่จะช่วยลดความร้อน  หล่อลื่นชิ้นส่วนต่างๆในเครื่องยนต์อีกด้วยครับ และที่สำคัญจะต้องรักษาให้อยู่ในระดับที่พอดีกับปริมาณที่กำหนดมาจากโรงงานที่ผลิตนั้นๆด้วย
                         เท่าที่พบในรถยนต์รุ่นใหม่ๆมีอาการเปลืองน้ำมันเครื่อง  หรือน้ำมันเครื่องขาดก่อนระยะเปลี่ยนถ่ายสาเหตุน่าจะมาจาก เทคโนโลยีของน้ำมันเครื่องทุกวันนี้มีอายุเปลี่ยนถ่ายที่ยาวนานขึ้น  อีกสาเหตุหนึ่งก็คือการนำไอน้ำมันเครื่องกลับมาเผาใหม้ใหม่  ทั้งนี้เพื่อให้สามารถผ่านกฏหมายมลภาวะได้  ก็เลยเปลืองน้ำมันเครื่องกว่าแต่ก่อน
                         แต่หากว่าเราปล่อยให้น้ำมันเครื่องลดลงต่ำกว่าระดับที่กำหนดจะทำให้ชิ้นส่วนของเครื่องยนต์มีความร้อน  และการสึกหรอที่สูงขึ้นด้วย และในน้ำมันเครื่องที่เสื่อมสภาพนั้น ค่าดัชนีความหนืดจะเปลี่ยนแปลงไป  ค่าความหนืดลดลงและสูญเสียคุณสมบัติในการหล่อลื่นไปในบางส่วนและจะทำใหเครื่องยนต์สึกหรอสูงกว่าปกติ  ซึ่งน้ำมันเครื่องที่ดีนั้นจะต้องมีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอณูสูง  ไม่แตกกระจายได้ง่ายและจะต้องรักษาความเป็นฟีลม์บางๆของน้ำมันเพื่อที่จะเคลือบผิวโลหะไว้ได้ดีอีกด้วย
             
                         สาเหตุที่ทำให้น้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพนั้นมีอยู่หลายประการคือ
1.Oxidation ในขณะที่เครื่องยนต์อยู่ในสภาวะที่อุณหภูมิสูง  จะทำให้มีอ็อกซิเจนรวมตัวกับน้ำมันเครื่องและผลที่ได้รับคือ  จะเกิด Organic Acid หรือยางที่เหนียว และ Organic Acid นี้ทำให้เกิดการกัดกร่อนชิ้นส่วนต่างๆของเครื่องยนต์ โดยเฉพาะผิวหน้าสัมผัสของชิ้นส่วน  และยางที่เหนียวนั้นจะเกาะติดอยู่ตามชิ้นส่วนต่างๆในเครื่องยนต์ และในระยะยาวจะทำให้ วาลว์ติด  ทางเดินน้ำมันเครื่องอุดตัน  หรือแหวนลูกสูบตาย  เป็นต้น
2.Dilution  เกิดจากน้ำมันเครื่องบางส่วนที่เผาใหม้ไม่หมดไหลกลับสู่ก้นอ่างทำให้น้ำมันเครื่องเจือจางลง  และฟีลม์ของน้ำมันเครื่องบางลง  คุณสมบัติของน้ำมันที่ดีลดลง
3.น้ำ  เมื่อ  น้ำมันกับอากาศเกิดการเผาใหม้  อ็อกซิเจนในอากาศจะรวมตัวกับไฮโดรคาร์บอน ( HC ) ซึ่งเป็นโครงสร้างของน้ำมันทำให้เกิดน้ำ ไอน้ำเหล่านั้นจะไหลออกทางท่อไอเสีย แต่เมื่อเครื่องยนต์ไม่ได้ใช้งานหรือเย็นลง  ไอน้ำจะจับตัวอยู่ตามผนังกระบอกสูบ และบางส่วนไหลลงสู่ก้นอ่างน้ำมันเครื่องด้วย
3.เขม่า  เกิดจากห้องเผาใหม้  จะมีมากในบริเวณหัวลูกสูบ
4.เศษผงฝุ่นที่หลุดลอดมาจากไส้กรองอากาศ (บางคันถอดไส้กรองออกเลยก็มี)
5.เศษโลหะหนัก  ที่เกิดจากการสึกหรอตามปกติของเครื่ิองยนต์
                       เมื่อสิ่งสกปรกเหล่านี้รวมตัวกันก็จะเกิดตะกอนสีดำ น้ำตาล หรือเทาลักษณะคลายโคลนอ่อนๆจะเห็นว่าขนาดมีใส้กรองน้ำมันเครื่องที่แท้ขนาดใหนก็ไม่สามารถที่จะกรองได้หมด100% แน่นอนดังนั้นควรเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่องทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง คู่กับการทำความสะอาดไส้กรองอากาศ และเลือกใช้น้ำมันเครื่องให้เหมาะสมกับประเภทเครื่องยนต์ของเราด้วย  หากไม่รู้จริงๆปรึกษาอู่หรือช่างครับ  จะได้มีเครื่องยนต์ที่พร้อมให้เราใช้งานอยู่เสมอ.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น