วันศุกร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2558
เทอร์โบแปรผันดีอย่างไร
ระบบอัดอากาศแบบเทอร์โบ ในการอัดอากาศของเทอร์โบนั้นจะอาศัยการหมุนของใบกังหันหรือที่เรียกว่าใบเทอร์ไบน์ และแกนใบทางใอดีจะหมุนตามใบเทอร์ไบน์ทางฝั่งไอเสีย และใช้ความเร็วสุงจนเกิดแรงดันอากาศขึ้นมา
ดังนั้นการที่จะทำให้เกิดแรงดันอย่างรวดเร็วได้นั้นก็ต้องทำให้ใบพัดด้านไอเสียหมุนอย่างรวดเร็วที่สุด ซึ่งมันก็จะขึ้นอยู่กับค่า A/R หรือขนาดของโข่งหล้งเทอร์โบนั้นเอง
อ่านแล้วงงงงงง เอาง่ายๆคือ
*ถ้าโข่งหลังมีขนาดเล็ก จะทำให้ใบพัดหมุนเร็ว บูสท์มาเร็วแต่รอบปลายจะเกิดอาการอั้นของไอเสียทำให้แรงเครื่องยนต์ตกได้
*ถ้าโข่งหลังมีขนาดใหญ่ ย่อมจะทำให้ใบพัดหมุนได้ช้า แต่รอบสูงจะหมุนได้เร็วและไม่อั้นไอเสียทำให้มีแรงม้าในรอบปลายได้ นั้นเอง
ดังนั้นเทอร์แบบแปรผัน หรือที่แล้วแต่บริษัทจะเรียกเช่น
VNT variable nozzle turbo
VGT variable geometry turbo
VTG variable turbine geometry
จริงแล้วเทอร์โบแบบนี้มีมานานแล้วในต่างประเทศ แต่ในสมัยแรกยังไม่นิยมมากเหตุเพราะว่า กลไกของเทอร์โบแบบแปรผันนี้ค่อนข้างซับซ้อนกว่าเทอร์โบทั่วไป และวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้จำเป็นที่ต้องทนความร้อนให้ได้ในระดับ พันองศา และมีอายุการใช้งานที่สั้น
แต่ด้วยความสามารถและเทคโนโลยีสมัยนี้ หลายบริษัทชั้นนำต่างก็ผลิตและคิดค้นพัฒนาจนทำให้เทอร์โบแปรผันนั้นคงทนมากขึ้น และเป็นที่นิยมในรถยนต์เกือบทุกยี่ห้อทั้งเครื่องยนต์ดีเซล และเบนซิน
วันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2558
อุณหภูมิไอดี ผลกระทบโดยตรงต่อประสิทธิภาพเครื่องยนต์
อุณหภูมิไอดี ยิ่งต่ำเท่าไหร่ยิ่งดีเพราะยิ่งอุณหภูมิไอดีต่ำก็ยิ่งทำให้ออกซิเจนหนาแน่นมากขึ้นเท่านั้น การระเบิดก็จะยิ่งรุนแรงและส่งผลให้กำลังมากขึ้นด้วย เราจะสังเกตุเห็นว่ารถยนต์ส่วนใหญ่จึงต้องเจาะช่องที่กันชนไว้เพื่อรับลมที่เย็นจากอากาศภายนอกห้องเครื่องยนต์ หรือบางคันจะใส่ฝากระโปรงหน้ารถที่มีช่องบนฝาเพื่อระบายอากาศที่ร้อนจากภายในห้องเครื่องยนต์ออกไปแต่ส่วนใหญ่จะพบในรถแข่ง ดังนั้นหากเป็นเครื่องยนต์เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ที่เห็นอยู่หน้ารถหลังหน้ากากหรือหน้ากระจัง หรือหลังกันชนหน้าเพราะต้องการลมที่เย็นจากภายนอกมาช่วยในการทำให้อากาศก่อนที่จะเข้าสู่ห้องเผาใหม้ ก็นับว่าอินเตอร์คูลเลอร์เป็นอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นเหมือนกับคับ
หรือในบางคันก็จะเปลี่ยนให้อินเตอร์คูลเลอร์มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
หรือในบางคันก็จะเปลี่ยนให้อินเตอร์คูลเลอร์มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
วันพุธที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2558
ชุดกันโคลงหลวม เสียงดังรำคาญ ,สะท้าน แต่ชุดลูกหมากไม่หลวม
อาการ เกิดเเสียงดังรำคาญจากชุดช่วงล่างหน้า เป็นอาการผิดปกติท่ีรู้สีกได้แต่จับจุดไม่ได้มาจากระบบเสริมการทรงตัว หรือ STABILISER BAR , BALANCE BAR , ANTI ROLL BAR
หรือแล้วแต่จะเรียกกัน แต่ส่วนใหญ่เรียกแบบบ้านๆ คือเหล็กกันโคลง ลักษณะเป็นเหล็กแท่งกลมขดเป็นรูปตัว U หรือบางแบบมีวัสดุอื่น บางแบบมี 2 - 4 ชิ้นส่วน และจะยึดเกาะกับช่วงล่างในส่วนปลายสองข้าง ส่วนตรงกลางยึดแน่นกับตัวถัง
การทำงานนั้นจะทำให้ล้อซ้าย - ขวาคงระดับให้ใกล้เคียงกันมากที่สุด ,ลดระยะสูงต่ำเพื่อไม่ให้ตัวถังเอียงทำมุมมากเพราะมีผลต่อการบังคับรถ
หากพบอาการดังกล่าวข้างต้นและเช็คแล้วว่ากลไกในระบบลูกหมากมีสภาพดี ก็ลองตรวจเช็คจุดยึดของเหล็กกันโคลงดู อาจมาจากบูชยึดลูกหมากปลายกันโคลง หรือแขนยึดหลวมก็เป็นได้คับ
วันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2558
อาการเครื่องยนต์ ดีเซลคอมมอนเรล(CDI) เบาสั่น,อัตตราเร่งเพี้ยน,เปลีองน้ำมัน
จากสาเหตุ ขาดการตรวจเช็ค,จากอายุ,บางครั้งมาจากกลไกเสื่อมสภาพ,มาจากคุณภาพ
น้ำมันเชื้อเพลิง
ส่วนใหญ่จากอายุการใช้งานเป็นหลัก ทั้งนี้ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลงแบบCDI ที่มาแทนระบบเดิม DI (DIRCET INJECTION และระบบ SWIRL CHAMBER COMBUSTION) ในอดีตซึ่งถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงเทคนิคในการระบบจ่ายน้ำม้น
เอาแบบเข้าใจง่ายหน่อยคือ ระบบ cdi หรือที่เราใช้กันทุกวันนื่คือ คอมมอนเรลเนี้ยนะคับจะใช้ปั้มสร้างแรงดันน้ำมันให้สูงไปยังรางหัวฉีด และจะสะสมแรงดันจนกว่าหัวฉีดที่มี ecu ควบคุม สั่งปล่อยให้เชื้อเพลิงผ่านเข้าห้องเผาใหม้ เพื่อผสมกับอากาศที่ร้อนจัดจากการอัดของลูกสูบ และเกิดการสันดาปและลุกใหม้กับน้ำมันเชื้อเพลิง ดังนั้นรางคอมมอนเรลจึงมีผลต่อประสิทธิภาพของเครื่องยนต์
ปัญหาที่พบบ่อย
1. เกิดการคลายตัวของน็อตยึดท่อทางเดินของน้ำมัน ทำให้มีอากาศไหลเข้าสู่ระบบน้ำมันเป็นฟอง
2. ตัวควบคุมแรงดันให้รางหัวฉีด ทั้งระบบกลไก และระบบไฟฟ้าเสื่อม ทำให้แรงดันน้ำมันไม่่สม่ำเสมอในขณะเครื่องยนต์ทำงาน
3. ปั้มสร้างแรงดันเสื่อม ,เสืย
สภาพดังกล่าวโดยมากมักเกิดจากการสึกหรอจากการทำงาน จากคุณภาพของน้ำมัน และส่งผลให้เครื่องยนต์ทำงานผิดจากสเปค เกิดอาการเบาสั่น, อัตราเร่งไม่สมำเสมอ, กินเชื้อเพลิง, บางครั้งมีรั่วซึม
การตรวจเช็คตามระยะทาง และหมั่นตรวจเช็คสังเกตุอาการผิดปกติด้วยตัวเองก็จะช่วยยืดอายุเครื่องยนต์ได้อีกทางคับ
วันเสาร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2558
การบำรุงรักษาเกียร์ออโต้เมติกส์ GEAR AUTOMATIC
ในที่นี้ขอเสนอเฉพาะเกียร์ออโต้ระบบธรรมดาทั่วไป ที่ยังไม่ใช่ระบบเกียร์ CVT นะคับ
เกียร์ออโตเมติกส์ หรือเกียร์ออโต้ที่เราเรียกกันบ่อยๆ เวลาที่เสียขึ้นมาราคาในการซ่อมบำรุงรักษาค่อนข้างแพงคับ และหากเปลี่ยนชุดซ่อมไม่ครบ ซ่อมมาก็ไม่ค่อยจบในส่วนมากทางอู่มักแนะนำให้ลูกค้ายกเกียร์มือสองมาเปลี่ยน หรือที่เราเรียกว่าอะหลั่ยเชียงกง จริงแล้วมันก็ใช้ได้นะคับถูกกว่าซ่อมและใช้เวลาซ่อมเร็วกว่า (เปลี่ยนอย่างเดียว) แต่ต้องเสี่ยงหน่อยเพราะมันเป็นของมือสองต้องทำใจเพื่อไว้บ้าง นอกจากเจออู่ที่เวลามีปัญหาพอจะช่วยเหลือกันและมีประกันให้ถึงจะระยะเวลาสั้นก็ยังดี
ทีนี้มาลองอ่านต่อดูถ้าสนใจ
มีวิธีอะไรบ้างที่จะช่วยยืดอายุของเจ้าเกียร์ออโต้ได้บ้าง
1. วิ่ง 20000 -25000 กม. ถ่ายน้ำมันเกียร์ซักครั้ง หรือจำง่ายๆ เราถ่ายน้ำมันเครื่อง 2-3 ครั้งถ่ายน้ำมันเกียร์ด้วยซักครั้งก็ได้ หลายคนคงบ่นว่าเปลืองมาก แต่เกียร์ออโต้ใช้คุณภาพของน้ำมันในการทำงานของมันให้สามารถปรับเปลี่ยนแรงบิดให้เหมาะสมกับในแต่ละช่วงเวลาการทำงานนะคับ
2. ใช้รถมาซัก 2 ปี ควรเข้าอู่เปิดอ่างน้ำมันเกียร์ เพื่อถอดใส้กรองออกมาล้างบ้าง ในภาพเป็นภายในเกียร์ที่เปิดอ่างแล้ว เพราะอย่างทีบอกเกียร์ออโต้ใช้คุณภาพของน้ำมันในการทำงานของมันให้สามารถปรับเปลี่ยนแรงบิดให้เหมาะสมกับในแต่ละช่วงเวลาการทำงาน ดังนั้นจึงต้องอาศัยแรงดันของน้ำมันด้วย หากใส้กรองอุดตันก็ส่งผลให้การทำงานผิดผลาดได้
เช่น 2.1 จอดรถนานนานเช่นจอดข้ามคืนพอเช้ามาต้องติดเครื่องเข้าเกียร์ซักพักรถถึงเคลื่อนที่ได้
2.2 เวลาเกียร์เปลี่ยนมีอาการกระชาก กระตุก
3. ใช้น้ำมันเกียร์ที่มีเกรดเดียวกับที่ผู้ผลิตกำหนดให้ใช้ ลองชักไม้วัดน้ำมันเกียร์ดูที่ปลายไม้วัด ส่วนใหญ่จะมีปั้มมาบอกเกรดน้ำมัน เช่น DEXRON 2 หรือ 3
ลองดูนะคับเสียเวลาและเงินหน่อย ถ้ากะว่าใช้ยาวกับรถสุดรักของเรา
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)