วันพฤหัสบดีที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2558

เรื่องการบำรุงรักษา โช้คอัพสตัทปรับเกลียว


                              การอัฟเกรดระบบช่วงล่าง  และระบบกลไกของรถยนต์ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้รถยนต์มีความนุ่มนวล  หรือควบคุมง่ายขึ้น  แต่เนื่องจากในระบบกลไกต่างๆนั้นหากเราต้องการให้มันสามารถที่จะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ  ก็ต้องมีการบำรุงรักษา (เพราะของฟรีไม่มีในรถยนต์)
                            
                              ในเรื่องของโช้คอัพสตัทปรับเกลียวนั้นส่วนใหญ่ค่าสปริงจะถูกกำหนดมาจากผู้ผลิต  แต่เราสามารถที่จะปรับค่า  ความหนืด ได้ตามต้องการกับลักษณะการขับขี่ที่ต้องการ 
                               อุณหภูมิ  และปัจจัยจากภายนอก  เป็นตัวแปรที่มีผลต่อน้ำมันที่บรรจุอยู่ในตัวโช้คอัพ  ตัวอย่างเช่น  หากเซ็ทค่าความหนืดไว้สำหรับวิ่งในฤดูหนาว  แต่พอถึงฤดูร้อนเมื่อนำรถมาขับจะรู้สึกว่าโช้คอัพนิ่มเกินไป และในทางตรงข้ามกันด้วย เป็นต้น
                               การบำรุงรักษาโช้คอัพสตัทปรับเกลียวควรทำตั้งแต่เมื่อซื้อมาแล้วและก่อนการติดตั้งคือการพ่นน้ำยากันสนิมในบริเวณเกลียวของโช้คอัพ เพราะจะมีการเกิดสนิมก่อนเนื่องจากบางครั้งต้องเจอน้ำและความชื้น  ในทุกครั้งที่มีการถอดยางรถยนต์ควรสำรวจดูที่แกนโช้คอัพว่าสกปรกหรือปล่าว  ถ้ามีควรทำความสะอาดด้วยแปรง  เพราะมีผลต่ออายุของซีลแกนโช้คอัพ
                                การปรับความ สูง-ต่ำ ของรถยนต์ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะในการควบคุมรถ เช่นในบรรดาพวกรถสนามต่างๆเราจะเห็นว่ามีความเตี้ยแทบจะติดพื้น สาเหตุเพราะว่าหากรถยนต์ มีระดับที่ต่ำลงแล้วบรรดาพวกอาร์มที่ค้ำระบบช่วงล่างในจุดต่างๆจะมีความยาวเพิ่มขึ้น ฐานล้อกว้างขึ้นและมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำลงจึงเข้าโค้งได้ดีขึ้น
                               
                                ทั้งนี้การปรับ เปลี่ยน อุปกรณ์  หรืออะหลั่ยรถยนต์ต่างๆ เนื่องจากในหลายชิ้นส่วนก็มีราคาที่แพงพอสมควร (ขึ้นอยู่กับแหล่งที่ได้มา) ดังนั้นในการที่เราอยากจะอัฟเกรดรถยนต์ของเราควรศึกษาหาข้อมูล  ข้อดี-ข้อเสีย จุดประสงค์ที่เราต้องการ  ก่อนก็ดีหรือปรึกษาช่างที่มีประสบการณ์  จะได้ไม่เสียเงินปล่าวๆคับ

วันเสาร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ความรุ้พื้นฐาน เกี่ยวกับระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์


                         เนื่องจากอุณหภูมิที่เกิดจากการจุดระเบิดในห้องเผาใหม้นั้น  มีอุณหภูมิสูงเป็นพันองศาหรือในระบบของรถแข่งที่เกือบ 2000 องศา  และจะร้อนอยู่เกือบตลอดเวลาหากปล่อยให้อุณหภูมิสูงไปเรื่อยๆเครื่องยนต์จะเกิดอาการเขก  และชิ้นส่วนบางอย่างเปลี่ยนรูปจนเกิดการเสียหายได้
                         ดังนั้นเครื่อยนต์จึงใช้น้ำมาช่วยในการ ลด - ควบคุมอุณหภูมิ  ให้คงที่มากที่สุดอยู่ตลอดเวลา  เสื้อสูบและฝาสูบจึงถูกออกแบบให้มีทางเดินน้ำที่เรียกว่า Water Jacket และใช้ปั้มน้ำเป็นตัวปั่นให้น้ำหมุนเวียนในเครื่องยนต์และนำความร้อนเข้ามาสู่หม้อน้ำ  และลดความร้อนของอุณหภูมิน้ำลงด้วยแผงระบายที่ทำงานรวมกับใบพัดลม  และจะหมุนเวียนเอาน้ำที่มีอุณหภูมิลดลงแล้วเข้าสู่เครื่องยนต์เป็นวงจรไปเรื่อยๆ  ซึ่งมันเป็นโครงสร้างพื้นฐานของระบบระบายความร้อนด้วยน้ำของเครื่องยนต์
                         ทั้งนี้หากเรื่องยนต์เย็นเกินไป จะส่งผลคือ  จะกินน้ำมันเชื้อเพลิง ประสิทธภาพของกำลังเครื่องยนต์จะลดลง  ดังนั้นการรักษาอุณหภูมิของน้ำหล่อเย็นจึงมีผลสำคัญครับ และเป็นเหตุผลที่ต้องมีอุปกรณ์ที่จะคอยควบคุมการไหลของน้ำที่เรียกว่า  เทอร์โมสต้ท
                         หม้อน้ำรถยนต์มีอยู่สองประเภทใหญ่ๆ  คือ แบบที่ทำจากอลูมิเนียม  และแบบที่ทำจากทองแดง  ข้อดีของทองแดงคือจะคายความร้อนได้ดี  แต่มีข้อเสียคือมีน้ำหนักมาก
อลูมิเนียม ข้อดีระบาความร้อนได้ดีแต่ต้องมีการไหลเวียนของลมผ่านแฝงระบาย  และมีน้ำหนักที่เบา ข้อเสียคือการคายความร้อนด้วยตัวเองที่สู้แบบทองแดงไม่ได้

                         หากหม้อน้ำรถยนต์ของเรามีอายุมาก หรือมีการรั่วซึมตามอายุการใช้งานแล้วอยากที่จะเปลี่ยน  หรืออัปเกรด ก็มีแนวทางหลากหลายให้คิด เช่น ลักษณะการใช้งาน น้ำหนัก ราคา ความยาก-ง่ายในการติดตั้ง รูปร่างหน้าตา การจัดวางอุปกรณ์รอบๆทั้งนี้เพื่อประสิทธิภาพในการระบายความร้อนที่ดีครับ แต่หากคิดว่ามันยุ่งยากเกินไป  ก็แนะนำว่าแบบ Standard ครับแบบเดิมเลย  ไม่ต้องคิดมากประสิทธิภาพการทำงานต่างๆ ก็เหมือนแบบที่เคยใช้ครับ